บทที่ 1 ตอนที่ 1

นิตยสาร Forbes ได้จัดอันดับ อภิมหาเศรษฐี20 อันดับแรกของโลกมาเป็นระยะเวลายาวนานถึง 28 ปีเต็ม และในทุกๆ ปีที่มีการจัดอันดับชื่อของ จอร์จ คูล คาร์ตัน มหาเศรษฐีชาวสหรัฐอเมริกาวัย 65 ปีก็ต้องเด่นผงาดอยู่ในลำดับที่หนึ่งเหนือทุกคนเสมอ ด้วยราคาหุ้นของธุรกิจในเครือ คาร์ตัน บริจค์ พุ่งสูงขึ้นมาก ประกอบกับได้เปลี่ยนผู้คุมบังเหียนของธุรกิจเป็นสายเลือดใหม่ทั้งหมด ธุรกิจในเครือ คาร์ตัน บริจค์ จึงเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด ยากที่ใครจะเลียนแบบได้ ดังนั้นตำแหน่งอภิมหาเศรษฐีอันดับที่ 1 ของโลกจึงตกอยู่ในมือของ จอร์จ คูล คาร์ตัน ได้อย่างไม่น่าแปลกใจ และดูทีท่าว่าจะครองตำแหน่งนี้ไปอีกยาวนาน

ย้อนกลับไปในอดีต จอร์จ คูล คาร์ตัน เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของนักธุรกิจเล็กๆ ภายในเมืองแบตันรูช รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา บิดาและมารดาผลักดันให้เขาศึกษาในวิชาสาขาเกี่ยวกับการแพทย์ เขาไม่ได้ชอบการเป็นหมอรักษาคนป่วย แต่เขาชอบการวิจัยเกี่ยวกับสิ่งรอบๆ ตัว แต่ด้วยเพราะไม่สามารถขัดใจบิดาและมารดาได้ จอร์จจึงต้องเข้าเรียนในสาขาแพทยศาสตร์ แต่เขาก็เรียนไม่จบ สร้างความไม่พอใจให้กับบิดาและมารดาเป็นที่สุด หลังจากทนแรงกดดันจากบุพการีไม่ไหว จอร์จจึงหนีออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับเพื่อนสนิทสมัยเรียนมัธยม และที่นั่นก็ทำให้เขาได้รู้ว่าแท้จริงแล้วตัวเองนั้นต้องการอะไร และอยากเป็นอะไร

จอร์จรู้ตัวเองว่าชอบเพศเดียวกันเมื่อเผลอมีความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทที่ชื่อ ไรอัน และนั่นจึงตอบคำถามที่เขาเฝ้าถามตัวเองมาตลอดหลายปีว่าทำไมถึงไม่สนใจผู้หญิงเลยได้อย่างชัดเจน เขาเป็นเกย์ และแน่นอนว่าบิดามารดาจะต้องไม่มีวันเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาเป็นแน่ ดังนั้นจอร์จจึงตัดสินใจว่าจะกลับไปเรียนแพทย์อีกครั้งเพื่อทดแทนบุญคุณของบุพการี และซ่อนความลับในเรื่องรสนิยมทางเพศของตัวเองเอาไว้ใต้เงามืด

จอร์จฝืนเรียนจนจบแพทย์ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 คะแนนของเขาสูงโด่งนำทุกคนร่วมชั้น สร้างความภาคภูมิใจให้กับบิดามารดาเป็นที่สุด เขายินดีมากที่พ่อกับแม่มีความสุข และก็ยินดีอย่างที่สุดที่หลังจากนี้ไปเขาจะมีอิสระทำตามใจตัวเองเสียที แต่หลังจากที่เขาทำงานเป็นแพทย์ในเมืองหลวงได้ไม่นาน ข่าวร้ายก็มาเยือนให้ช้ำทรวง เมื่อบิดาป่วยหนัก และวิงวอนขอให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่เลือกเอาไว้ให้ จอร์จอยากจะบอกบิดามารดาว่าเขาไม่ได้รักผู้หญิง ไรอันคือคนที่เขารัก และคิดจะใช้ชีวิตร่วมด้วย แต่อาการของท่านคงจะทรุดหนักหากเขาพูดเช่นนั้น

“ครับ ผมจะแต่งงานกับมิลล่า”

คำตอบของเขาทำให้บิดามีความสุข มารดาของเขาก็เช่นกัน ซึ่งตรงกันข้ามกับเขาและไรอันอย่างสิ้นเชิง

ไรอันโกรธถึงขนาดเดินหนี และไม่ยอมมีความสัมพันธ์กับเขาอีกเลย เขาตามง้องอนอยู่นานเกือบเดือนกว่าไรอันจะยอมให้พบ และยอมรับฟังคำอธิบายของเขา แน่นอนว่าคนที่เจ็บปวดในเรื่องนี้คือเขากับไรอันนั่นเอง

“เราจะยังอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ไรอัน ผมจะไม่มีวันทิ้งคุณ”

“แต่คุณต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนที่พ่อกับแม่เลือกให้ ผมมองไม่เห็นทางที่ความรักของเราจะสมหวังเลยจอร์จ เราคงต้องยุติมัน”

“ไม่นะไรอัน... ทุกอย่างจะสำเร็จ ผมจะตกลงกับผู้หญิงคนนั้น”

“เธอไม่มีทางยอม”

“เงินจะทำให้เธอยอม เชื่อผม... ผมรักคุณคนเดียวไรอัน”

คำสัญญาที่เขาให้ไว้กับไรอันมันคือความจริงใจที่ถูกกลั่นออกมาจากจิตวิญญาณ เพราะหลังจากนั้นไม่นานเขาก็แต่งงานกับมิลล่า แต่ไม่เคยแตะต้องหล่อนเลยแม้แต่น้อย เขาสารภาพกับหล่อนเอาไว้ก่อนแต่งงานว่าแท้จริงแล้วเขามีรสนิยมทางเพศแบบไหน ซึ่งมิลล่าก็เข้าใจ แม้ว่าหล่อนจะมีน้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้าบ้างก็ตาม

ทุกอย่างเดินทางไปตามเส้นทางของมันได้อย่างงดงาม พ่อกับแม่ของเขามีความสุขและรออุ้มหลาน ในขณะที่เขากับไรอันก็ยังคงมีความสัมพันธ์แนบชิดกันเหมือนเดิม ส่วนมิลล่าเองแม้ตอนแรกหล่อนจะเศร้าสร้อย แต่ตอนนี้หล่อนเองก็มีคนรู้ใจที่แอบคบหากันอยู่ลับๆ เขากับหล่อนตกลงกันด้วยดี และอยู่ด้วยกันอย่างเพื่อน จนเมื่อเวลาผ่านไปสามปีเต็ม พ่อกับแม่ของเขาเร่งเร้าให้มีหลาน เขากับมิลล่าจึงตัดสินใจโกหกท่านว่ามิลล่าเป็นหมัน ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ ท่านทั้งสองคนเสียใจมากแต่ก็ไม่นาน เพราะพอเขากับมิลล่าตัดสินใจอุปการะเด็กชายจำนวน 6 คนจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านานาชาติมาเป็นบุตรบุญธรรม บิดากับมารดาก็ตื่นเต้นและลืมเรื่องทุกข์ใจไปจนหมดสิ้น ช่วยเขากับมิลล่าเลี้ยงดูเด็กชายทั้ง 6 คนด้วยความรักความเอ็นดู ตราบจนชีวิตของพวกท่านสิ้น

ทุกอย่างในอดีตคือความทรงจำที่ยากจะลืม ทั้งเจ็บปวด สวยงาม และตรึงใจ จอร์จ คูล คาร์ตันที่ตอนนี้อยู่ในวัยชรา 65 ปีถอนใจออกมาเบาๆ ขณะนั่งอยู่บนรถเข็นมองทอดสายตาออกไปนอกระเบียง ยังทิวเขางามเบื้องหน้าโดยมีพยาบาลสาวรูปร่างอรชรยืนมองด้วยความเป็นห่วงอยู่ไม่ไกล

บทถัดไป